วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558

เตือน 10 เมนูอัตรายหน้าร้อน

เตือน 10 เมนูอัตรายหน้าร้อน เน้นกินร้อน.....ใช้ช้อนกลาง 

เตือน 10 เมนูอัตรายหน้าร้อน

นายวิทยา  บุรณศิริ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  มีความเป็นห่วงสุขภาพประชาชน เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูร้อน ซึ่งอากาศที่ร้อนเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคอย่างมาก โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียที่มีโอกาสจะเกิดการระบาดของโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ  จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังความสะอาดของอาหารและน้ำดื่มเป็นพิเศษ ขอให้ยึดหลักปฏิบัติในชีวิตประจำวันง่ายๆ ได้แก่ 1.กินร้อน โดยรับประทานอาหารที่ปรุงสุกและปรุงเสร็จใหม่ๆ หากเป็นอาหารข้ามมื้อให้อุ่นให้ร้อนหรือเดือดก่อน 2.ใช้ช้อนกลาง ตักอาหารขณะกินอาหารร่วมวงกับผู้อื่น และ 3.ให้ฟอกสบู่ล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารและภายหลังจากใช้ห้องส้วม รวมถึงก่อนเตรียมนมให้เด็กทุกครั้ง 
สำหรับการป้องกันโรคในฤดูร้อน ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการ 4 เรื่อง ได้แก่ 1.ให้เฝ้าระวังโรคในพื้นที่ หากพบมีผู้ป่วยเกิดขึ้นให้รีบดำเนินการสอบสวนควบคุมป้องกันไม่ให้โรคแพร่ระบาดทันที 2.ให้ดูแลควบคุมมาตรฐานน้ำประปา โรงงานผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด โรงงงานผลิตน้ำแข็ง ซึ่งในฤดูร้อนจะมีการบริโภคน้ำแข็งน้ำดื่มสูงขึ้นกว่าฤดูกาลอื่นๆ 3.ดูแลกวดขันความสะอาดโรงอาหารโรงเรียน ร้านอาหาร แผงลอยจำหน่ายอาหาร และตลาดสด ขอความร่วมมือผู้ประกอบการดูแลความสะอาดสถานที่และส้วมสาธารณะต่างๆ และ 4.ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนให้รู้จักอาการของโรค การปฏิบัติตัวที่จะไม่ให้ป่วย และขอความร่วมมือให้การดูแลความสะอาดห้องส้วม ห้องครัว นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรค ดำเนินการในการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค รวมถึงการสอบสวนโรคที่เกิดขึ้นร่วมกับหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
          วันนี้ (30 มีนาคม 2555) นายแพทย์สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย  รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้กำหนดให้วันที่ 814 เมษายน 2555 เป็นสัปดาห์รณรงค์ป้องกันโรคอาหารเป็นพิษ จากการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา พบว่า ช่วงหน้าร้อนระหว่างเดือนมีนาคมเดือนพฤษภาคมของทุกปี เป็นช่วงที่อากาศในประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงมาก นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเทศกาลมีวันหยุดต่อเนื่องยาว ประชาชนมักถือโอกาสท่องเที่ยว กลับภูมิลำเนา มีงานเลี้ยงฉลอง มีงานบุญ งานรื่นเริง รับประทานอาหารเป็นกลุ่มจำนวนมาก สิ่งที่พบบ่อยตามมา คือ การเจ็บป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษ จากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค อาหารไม่สะอาด อาหารปรุงสุกๆดิบๆ และอาหารที่ทำล่วงหน้าเกิน 4 ชั่วโมง  ซึ่งอากาศร้อนแบคทีเรียจะเจริญเติบโตได้เร็ว ทำให้อาหารบูดง่าย จากการเฝ้าระวังโรคอาหารเป็นพิษพบว่า ในปี 2554 ตลอดทั้งปีมีผู้ป่วย 100,534 ราย สำหรับปี 2555 ตั้งแต่ 1 มกราคม26 มีนาคม พบผู้ป่วย 26,811 ราย เสียชีวิต 1 ราย พบภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ป่วยสูงสุด รองลงมาเป็นภาคเหนือ ภาคกลางและภาคใต้ ตามลำดับ จังหวัดที่มีอัตราการป่วยสูงสุด ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ รองลงมาเป็นอุบลราชธานี บุรีรัมย์ ขอนแก่น และพิษณุโลก ตามลำดับ 
กรมควบคุมโรคจึงขอให้ผู้ประกอบอาหารและผู้บริโภคอาหาร ช่วยกันระมัดระวังให้อาหารสะอาดปลอดภัยด้วยอยู่เสมอ ไม่ปรุงอาหารทิ้งไว้เป็นเวลานานก่อนนำไปให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะอาหารประเภทที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบจะเสียง่ายกว่าปกติ อาหารประเภทยำ ลาบ ต้องปรุงให้สุก เนื่องจากอากาศร้อนจะทำให้อาหารบูดเสียง่าย ผู้ปรุงอาหารต้องรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลให้ดี แต่งกายสะอาด รวบผม ล้างมือก่อนปรุงและหลังประกอบอาหารทุกครั้ง โดยเฉพาะต้องล้างมือทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ ส่วนผู้เดินทางท่องเที่ยวหรือผู้บริโภคอาหารนั้น ถ้าจะแวะรับประทานอาหารขอให้เลือกร้านที่มั่นใจว่าสะอาด หรือมีเครื่องหมายรับรองความปลอดภัย สำหรับน้ำดื่มหรือน้ำแข็งควรมีเครื่องหมายรับรองคุณภาพจาก อย. รวมทั้งล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง นอกจากนี้กรมควบคุมโรคยังต้องขอความร่วมมือจากชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขและองค์การบริหารส่วนตำบล ช่วยกันดูแลประชาชนไม่ให้เจ็บป่วยหรือถ้าเจ็บป่วยจากอาหารเป็นพิษต้องรีบรายงานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทราบเพื่อการควบคุมโรคไม่ให้ระบาดในวงกว้าง โรคอาหารเป็นพิษเกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาดมีเชื้อโรคหรือสารพิษจากสัตว์พิษหรือพืชพิษ เช่น เห็ดพิษ คางคก แมงดาทะเล สาหร่ายหรือปลาทะเลบางชนิด เป็นต้น ทำให้เกิดอาการอาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลว อาจมีไข้หรืออาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อาการทางระบบประสาท พบมากในกลุ่มนักเรียนและผู้ที่เดินทางเป็นหมู่คณะรับประทานอาหารร่วมกัน                                          
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า  สำหรับการช่วยเหลือรักษาผู้ป่วยอุจจาระร่วงเบื้องต้นทำโดยให้สารละลายเกลือแร่โอ อาร์ เอส หรือของเหลวมากกว่าปกติ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ  ซึ่งถ้าไม่มีก็อาจทำได้ง่ายๆ โดยใช้น้ำต้มสุก 1 ขวดน้ำปลาใหญ่ หรือประมาณ 750 ซีซี ผสมน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ และเกลือแกงครึ่งช้อนชาผสมให้เข้ากัน ทิ้งให้เย็นลง แล้วรับประทานแทนน้ำหรือให้อาหารอ่อนย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก หรือน้ำข้าว หรือแกงจืด ไม่งดอาหารรวมทั้งนมแม่ สำหรับเด็กที่ดื่มนมผสมให้ผสมเหมือนเดิมแต่ปริมาณลดลงและให้สลับกับสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ เพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร เมื่ออาการโรคอุจจาระร่วงไม่ดีขึ้น แนะนำให้ไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือแพทย์ทันที ไม่ควรกินยาเพื่อให้หยุดถ่าย เพราะจะทำให้เชื้อโรคค้างอยู่ในร่างกาย ซึ่งจะเป็นอันตรายมากขึ้น
          เมนูทอปฮิตอันตรายหน้าร้อน จากการสอบสวนโรคจากผู้ป่วยพบ 10 เมนูอันตรายดังนี้ 1.ลาบ/ก้อยดิบ เช่น ลาบหมู ก้อยปลาดิบ 2.ยำกุ้งเต้น  3.ยำหอยแครง  4.ข้าวผัดโรยเนื้อปู โดยเฉพาะกรณีที่ทำในปริมาณมาก เช่น อาหารกล่องแจกนักเรียนหรือคณะท่องเที่ยว 5.อาหาร/ขนม ที่ราดด้วยกะทิสด 6.ขนมจีน 7.ข้าวมันไก่8.ส้มตำ 9.สลัดผัก 10.น้ำแข็ง  ส่วนอาหารปิ้งย่างที่นิยมรับประทานกัน เช่น หมูกระทะ กุ้งกระทะ ช่วงหน้าร้อนนี้ขอให้ใจเย็นๆ เวลาปิ้ง ควรปิ้งให้สุกจะได้ปลอดภัยจากอาหารเป็นพิษ ระยะนี้เน้นรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ๆ เท่านั้น ส่วนอาหารถุงอาหารกล่อง อาหารห่อ ต้องรับประทานภายใน 4 ชั่วโมงหลังปรุงสุก อาหารกระป๋องแม้จะปลอดภัยก็ต้องดูวันหมดอายุ อาหารค้างคืน ต้องอุ่นทำให้สุกก่อนรับประทานทุกครั้ง อย่าลืมฤดูร้อนผู้ปรุงอาหารต้องปรุงอาหารให้ สุก ร้อน สะอาด ส่วนผู้บริโภคต้อง กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวทิ้งท้าย




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น